Wednesday, June 26, 2019

# แนวทางการอัพสเตตัสของแต่ละอาชีพ

          สำหรับแนวทางการอัพค่าสเตตัส สำหรับเกมแฟรี่แลนด์นี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่ผู้เล่นสามารถออกตัวโจมตีศัตรูก่อน เพราะหากเราช้ากว่าศัตรูโอกาศจะตายในเทิร์นแรกมีสูงมาก (เกมแพทหลังๆ มานี้สัตว์อสูรโหดมาก มาทีละ 10 ถ้าโดนรุมก่อน เตรียมหามกลับ รพ ได้เลย) ดังนั้นการวางแผนอัพสเตตัสที่ดีไม่ว่าจะวางแผนเล่นเป็นทีมเวิร์ค(ซึ่งเกมออกแบบมาให้เล่นแบบนี้มากที่สุด) หรือ จะลุยเดี่ยวแบบข้าเก่งคนเดียว ก็ได้ ต้องกำหนดแนวทางการเล่นก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งแนวทางการเล่นออกเป็นดังนี้

1.อาชีพนักเวทย์ : จะแบ่งการอัพสเตตัสออกเป็นของแต่ละอาชีพ ดังนี้

- จอมเวทย์ / เจ้าแห่งเวทย์ธาตุ : สำหรับสายโหดที่ยิงเวทย์ได้แรงมากๆ จะอัพค่า INT อย่างเดียว ส่วนค่า DEX จะเน้นไปใส่ไอเทมที่ +DEX ซึ่งให้พอออกตัวโจมตีก่อนศัตรูแค่นั้น ในเลเวลน้อยๆ อาจจะลำบากในการเก็บเลเวลด้วยตัวเอง แนะนำให้หาทีมในการเก็บเลเวล และสัตว์อสูรที่จำเป็นต้องมีขาดไม่ได้เลย คือ สัตว์อสูรธาตุไฟที่มีค่า INT มากๆ เช่น นกฮูกไฟ แกะไฟ โดยพวกสัตว์เหล่านี้ต้องทำการผสม-สร้างใหม่ขึ้นมาจากตัวดั้งเดิม (เพราะตัวดั้งเดิมพวกสัตว์ธาตุไฟมันจะเน้นค่า STR กะ LUK โดยไม่มีค่า INT ที่มากเลย) ทั้งนี้ในสกิล Meteor Blast ซึ่งเป็นสกิลธาตุไฟจะมีพลังโจมตีแรงสุดและโจมตีทุกตำแหน่ง ดังนั้นต้องหาสัตว์ธาตุไฟ INT สูงๆ มาแปลงเป็นเวทย์ จะทำให้เวทย์แรงขึ้น เรียกได้ว่าเคลียร์ศัตรูได้หมดในเทิร์นเดียวเลยทีเดียว ส่วนผู้เล่นที่เลเวลต้นๆ เพิ่งเริ่มเล่นยังไม่มีทุนในการสร้าง ก็ให้หาพวกสัตว์อสูรธาตุมืด เช่น นกฮูกมืด แกะดำ หมาป่ามืด ยูนิคอร์นมืด มาลดเลเวลแล้วปั้นให้เวลสูงๆ เอาไว้แปลงเวทย์ใช้ก่อนได้

- จอมเวทย์แสง / ปราชญ์แห่งแสง : เน้นการอัพค่า INT กับ DEX โดยจะใช้สูตร 2:1 เนื่่องจากจอมเวทย์แสงควรจะออกสกิลก่อนเป็นอันดับต้นๆ ในทีม เพราะจะได้เปรียบในการต่อสู้ เลยต้องมีการอัพ DEX ให้เยอะๆ ด้วย แต่ก็ขาด INT ไปไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากค่า INT ยิ่งมาก เวทย์ฮีลก็จะฟื้นฟู HP มากตามด้วย และสกิลบัพให้เพื่อนๆ หากบัพให้เพื่อนในทีมได้ก่อนก็จะทำให้การโจมตีของทีมมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สำหรับสายโหด ก็จะอัพ INT เป็นหลัก เน้นค่า DEX จากไอเท็มสวมใส่แทน ก็จะโหดพอสมควร แถมไม่ตายง่ายๆ เพราะเวทย์ฮีลที่แรงมากๆ แถมมีสกิล Rain of Grace ที่โจมตีพร้อมๆ กับดูดค่าความเสียหายบางส่วนมาแปลงเป็น HP ให้เรา ก็ยิ่งตายยากมาก แต่เกมแพทหลังๆ สัตว์อสูรเลเวลสูงๆ โหดขึ้นมาก ทำให้ลุยเดี่ยวลำบาก ต้องไปเป็นทีมจะดีที่สุด
          สำหรับสัตว์ที่แปลงเวทย์ก็เป็นพวกธาตุแสง ที่มีค่า INT เยอะๆ ก็ต้องลงทุนไปผสม-สร้างมาอีกเช่นเดียวกับจอมเวทย์ เพราะสัตว์ธาตุแสงดั้งเดิมจะมีสเตตัสแบบสุ่ม ซึ่งไม่มี INT เยอะๆ เลย พวกสัตว์อสูรที่นิยมนำมาผสม-สร้าง ก็เช่น นกฮูกแสง ยูนิคอร์นแสง เป็นต้น เพราะหาง่ายสุด

- จอมเวทย์มืด / เจ้าแห่งศาสตร์มืด : อาชีพที่ยังไงๆ ก็ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเก็บเลเวลและตีบอส เพราะสกิล Weakness จะเป็นตัวช่วยลดความโหดของบอสลงเป็นอันมาก ทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจในระดับหนึ่ง และสกิลที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากในการเก็บเลเวล คือ สกิล Dark Ritual พิธีมืด สำหรับเรียกสัตว์อสูรออกมาให้เราเชือด เอ๊ะ หรือเชือดเรา? ซึ่งจะทำให้เก็บเลเวลได้เร็วมากๆ จอมเวทย์มืดจะเน้นการอัพไปที่ค่า DEX/INT สองค่านี้เท่านั้น เพราะสกิลโจมตี Super Burst ความเร็วในการออกสกิลจะเอาค่า DEX / 2 ทำให้เราต้องอัพค่า DEX ไปเยอะพอสมควร เอาให้เร็วกว่าศัตรูก็พอ (ต้องเทียบในตอนต่อสู้) สิ่งที่ช่วยได้อย่างมากคือ ไอเท็มส่วมใส่ที่ +DEX เยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะจะได้ไปเน้นอัพ INT แทน ทำให้ยิงเวทย์แรงยิ่งขึ้น ดังนั้นต้องลงทุนกับไอเท็มสวมใส่หน่อย จะได้โหดๆ สมเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืด
          สำหรับสัตว์เลี้ยงที่นำมาแปลงเวทย์ นับได้ว่าเป็นอาชีพที่หาสัตว์เลี้ยงได้ง่ายที่สุด เพราะสัตว์ธาตุมืดจะเด่นทางด้าน INT อยู่แล้ว ก็หาพวก นกฮูกมืด แกะดำ หมาป่ามืด ยูนิคอร์นมืด มาลดเลเวลแล้วปั้นให้เวลสูงๆ ก็จะมีค่า INT ที่สูงมากๆ ก็เสริมความแรงของสกิลเวทย์มืดอีกแรง

- นักบวช / ผู้ปลดปล่อย : อาชีพนี้ในเกมแพทหลังๆ โดนตัดออกไป เป็นที่น่าเสียดายมาก นักบวชส่วนใหญ่จะเน้นอัพ DEX เลย เพราะจะทำให้อยู่รอดปลอดภัยในการต่อสู้ เน้นการออกสกิลก่อนได้เปรียบโดยเฉพาะสกิล Pine forest หรือนิยมเรียกว่าสกิล 4 5 6 คุณสมบัติคือหยุดเวลา เอ๊ย หยุดศัตรูทุกตำแหน่งไม่ให้เคลื่อนไหว 3 เทิร์น จากนั้น ท่านเจ้าคุณก็จับเชือดนิ่มๆ (หลายคนบอกเป็นสกิลที่โกงมากเวลา PK กันเพราะหากโดนก่อนก็พึงสังวรณ์ไว้เลยว่า ยืนรอความตายอย่างเดียว ^0^) เพราะพอหมด 3 เทิร์นก็โดนสกิลต่ออีก -*-. และด้วยนักบวชที่อัพ DEX เป็นหลัก นอกจากออกสกิลไวแล้ว ยังมีผลทำให้ค่าความแม่นยำของสกิลมากขึ้นอีกด้วย เรียกว่า แทบจะโดนทุกดอก นานๆๆๆๆๆ จะพลาดให้เห็นซักที
          สำหรับใครจะเล่นสายสนับสนุนทีมก็ให้อัพ INT เยอะหน่อยเพราะสกิลบัพมีผลช่วยทีมได้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า หยุดศัตรูแล้วบัพให้ทีมโจมตีแรงขึ้น แค่นี้ทุกคนในทีมก็แฮปปี้แล้ว
          สำหรับสัตว์อสูรก็เน้นพวก INT เยอะๆ ให้ตรงกับเวทย์ที่เราใช้บ่อยๆ อาจจะเป็นธาตุไม้ หรือธาตุดิน สำหรับเวทย์ดินที่ใช้ฟื้นฟู ก็ได้ แต่ต้องลงทุนผสม-สร้างสัตว์ธาตุนั้นที่เน้น INT เองนะ หากไม่เน้นความแรงธาตุ ก็หาสัตว์ธาตุมืด INT เยอะๆ มาแปลงเวทย์ก็ได้สำหรับคนทุนน้อย


2.อาชีพนักรบ : โดยส่วนใหญ่จะเล่นเป็น 2 สายหลักๆ คือ สายตีบอส และสาย PK ซึ่งแต่ละสายอาชีพจะมีวิธีอัพสเตตัสที่คล้ายๆ กัน ดังนี้

- สายตีบอส : จอมดาบ จอมกระบี่ และจอมขวาน จะเน้นอัพไปที่ค่า STR เป็นหลัก ค่า DEX จะมาจากไอเท็มสวมใส่ สายนี้เรียกได้ว่า ตีได้โหดมากๆ (DEX อัพให้ออกสกิลก่อนบอสก็พอ) สำหรับใครจะเน้นไปที่การเก็บเลเวลโดยเฉพาะจอมกระบี่ให้อัพ DEX เยอะ ๆ หรือ DEX นำ STR เพราะสกิล Draco มันแรงมากอยู่แล้ว พอเพียงสำหรับเก็บศัตรูได้ในเทิร์นเดียว

- สาย PK : การเล่นสายนี้เอาไว้เล่น PK กันเอง โดยการอัพค่า DEX ล้วนๆ แพ้ชนะวัดกันที่ใครออกสกิลก่อนกัน เพราะพอเลเวลสูงๆ สกิลอาชีพนักรบมันมีความแรงในตัวอยู่แล้ว...เปิดก่อนได้เปรียบ ^^


 3.อาชีพนักเดินทาง : จะแบ่งการอัพสเตตัสออกเป็นของแต่ละอาชีพ ดังนี้

- จอมหมัด / ปราชญ์กังฟู :อาชีพนี้ส่วนใหญ่จะอัพเหมือนอาชีพนักรบ คือเน้น STR ล้วน ค่า DEX มาจากไอเท็มที่ใส่ก็ได้ แนะนำให้อัพเหมือนจอมกระบี่ จะโหดมาก

- นักจับอสูร / เจ้าแห่งอสูร : สำหรับอาชีพนี้จะแบ่งออกได้หลายสายหลายแนว ดังนี้

          # สายเก็บเลเวล - จะอัพเน้นอัพ DEX เป็นหลัก และค่า STR เป็นรอง โดยค่า STR อาจจะหาจากไอเท็มสวมใส่เพิ่มเข้าไปเพื่อเสริมให้โจมตีได้แรงขึ้น ซึ่งสกิลหากินคือ God of Beast ซึ่งโจมตีทุกตำแหน่งของศัตรู โดยความแรงของสกิลนอกจากจะมาจากค่า STR ของผู้เล่นแล้ว หลักๆ จะมาจากค่า STR ของสัตว์อสูรที่แปลงมาใส่ในอาวุธและสัตว์ที่เอาออกมาต่อสู้ด้วย (ถ้าไม่มีสัตว์อสูรออกมาต่อสู้ด้วยจะไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้) ดังนั้นที่จำเป็นคือ ต้องมีสัตว์อสูรที่มีค่า STR มาก ๆ อย่างน้อย 2 ตัว แนะนำให้หาสัตว์ที่แปลงใส่อาวุธเป็นธาตุมืดหรือธาตุแสง (คิดแพ้-ชนะธาตุกับศัตรูที่ต่อสู้) และสัตว์ธาตุไฟเป็นสัตว์ที่ร่วมต่อสู้ (ประหยัดสุดในการผสม-สร้างสัตว์อสูร แล้ว) หากทุนเยอะๆ ก็หาพวกมืด/แสง มาแทนสัตว์ธาตุไฟ (เพราะสัตว์ธาตุไฟมี HP น้อย ตายง่าย) แต่ควรจะเป็นคนละธาตุกับสัตว์ที่แปลงใส่อาวุธ เช่น มืด - แสง หรือ แสง-มืด เพราะจะได้เฉลี่ยการแพ้-ชนะธาตุเวลาต่อสู้กับศัตรู
          ส่วนสายโหดๆ ก็เน้นอัพ STR ล้วน หา DEX จากไอเท็มสวมใส่ อัพให้ออกก่อนศัตรูก็พอ (ส่วนใหญ่จะออกช้ากว่าศัตรูธาตุน้ำ)
          # สายจับสัตว์ -เป็นอาชีพที่ทุกคนต้องการ ^^ เพราะเป็นอาชีพเดียวที่จับสัตว์อสูรมาเลี้ยงได้ จะเน้นอัพ DEX เป็นหลัก ยิ่งค่า DEX ยิ่งเยอะ จะจับสัตว์อสูรได้ง่าย (ค่าเสน่ห์ CHA ไม่มีผลต่อการจับ) อัพให้มากพอประมาณ ที่เหลือเอาไปอัพ STR เอาไว้สำหรับตีสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ที่ไม่ต้องการเวลาไปจับสัตว์อสูร
          # สาย Pwar -ในเกมนี้จะมีกิจกรรมสู้รบที่เรียกว่า Pwar ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้แต้มสะสมไว้แลกไอเท็มสำคัญ หายาก ที่เอาไว้ผสมทำไอเท็มอื่นๆ ที่จำเป็น โดยการร่วมต่อสู้สัตว์อสูรที่ออกมาอาละวาด และอาชีพยอดนิยมที่ใช้ Pwar ก็คือ นักจับอสูร เพราะมีสกิลโจมตีทุกตำแหน่งและเงื่อนไขการร่วมรบของอาชีพนี้ทำให้สัตว์อสูรที่จะต่อสู้มีเลเวลไม่สูงมากเกินไป (เพระถ้าเลเวลห่างกันมากเกินไปสัตว์อสูรจะโจมตีก่อนทำให้มีโอกาสตายยกทีม) สายนี้จะอัพ DEX ล้วนๆ อย่างเดียวเท่านั้น ความแรงของสกิลแต่ละอาชีพไม่มีผลใน Pwar นี้

- พ่อค้า / เถ้าแก่ใหญ่ : สำหรับอาชีพนี้จะแบ่งออกได้หลายสายหลายแนว ดังนี้

          # สายเก็บเลเวล - จะเน้นอัพ STR เป็นหลัก DEX รอง เน้นพกเงินเยอะๆเข้าไว้...ฮาาา สัตว์อสูรที่ใช้แปลงใส่อาวุธแนะนำใช้ธาตุมืดที่มีค่า INT เยอะ เพราะมีผลกับความแรงของสกิลหว่านเหรียญ
          # สายทำทักษะ - จะอัพ STR ล้วน เพื่อจะเอาไว้แบกของเวลาทำทักษะทำงาน และสร้างของ
          # สายหาไอเทม - จะอัพค่า LUK ล้วน โดยให้ทีมเป็นคนลากพาไปที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสดรอปไอเทมหายาก และตอนลดเลเวลไอเทมสวมใส่จะทำให้ได้ค่าสเตตัสที่ดีและราคาถูกลง